ยาหยอดหู ตอนที่ 1

ยาหยอดหู ตอนที่ 1

รศ.นพ.ปารยะ   อาศนะเสน
ภาควิชาโสต  นาสิก  ลาริงซ์วิทยา   

Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
 

            ยาหยอดหู มีประโยชน์ในการรักษา การอักเสบของหูชั้นนอกและหูชั้นกลาง รวมทั้งการอุดตันของขี้หู ยาหยอดหูประกอบด้วย ส่วนประกอบหลัก 2 ชนิดคือ
            1. ตัวยาสำหรับหยอดหู
            2. น้ำกระสายยาสำหรับยาหยอดหู

ตัวยาสำหรับหยอดหู
            ยาหยอดหูแต่ละชนิดจะมีตัวยาสำคัญผสมกันหลายชนิด ตัวยาที่อยู่ในยาหยอดหู แต่ละชนิดอาจจำแนกเป็น
            1.  ยาต้านจุลชีพ มักเป็นยาที่ใช้ผสมในยาหยอดหูเกือบทุกชนิด และมักใช้ยาต้านเชื้อแบคทีเรียที่สามารถออกฤทธิ์ได้กว้างขวาง ยาต้านจุลชีพนี้ส่วนใหญ่ใช้ในรายที่มีการอักเสบของหูชั้นนอก และ/หรือหูชั้นกลางที่มีเยื่อบุแก้วหูทะลุ ในรายที่มีหนอง หรือ เนื้อเยื่อที่ตายอยู่ในหูชั้นนอก ควรหยอดยาหลังจากทำความสะอาดหูชั้นนอกแล้ว เพื่อให้ยาต้านจุลชีพสามารถสัมผัสและแทรกซึมออกฤทธิ์ต่อบริเวณที่ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความถี่ของการหยอดยานั้นขึ้นกับความรุนแรงของการติดเชื้อ  ยิ่งหยอดบ่อย ยิ่งมีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์มาก

            2.  ยาระงับปวด มักเป็นยาชาเฉพาะที่ โดยมักผสมร่วมกับยาต้านจุลชีพ ยาชานั้นพอดูดซึมได้บ้าง ช่วยลดอาการปวดหู ในรายที่มีการอักเสบติดเชื้อ และลดการระคายเคืองที่เกิดจากยาต้านจุลชีพเอง
 
            3.  ยาต้านการอักเสบ เป็นยาสตีรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบได้ดี ทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ เช่น ผิวหนังในหูชั้นนอก หรือเยื่อบุหูชั้นกลางยุบบวม   มักใช้ในรายที่มีการอักเสบของช่องหูชั้นนอก หรือการอักเสบของหูชั้นกลาง ในรายที่มีช่องหูชั้นนอกบวมมาก อาจต้องใช้ผ้าก๊อซที่เป็นเส้นสอดเข้าไปในช่องหูชั้นนอกเพื่อเป็นสะพานให้ยาซึมเข้าไปในช่องหูได้ดีขึ้น ไม่ควรใช้ยาหยอดหูที่มีสตีรอยด์เป็นส่วนผสมในรายที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อรา, เชื้อวัณโรค หรืองูสวัด ในช่องหู

            4.  ยาต้านเชื้อรา มักใช้ในรายที่มีเชื้อราในช่องหู 
 
            5.  ยาละลายขี้หู มักใช้ในรายที่มีขี้หูอุดตันในช่องหูชั้นนอก ซึ่งอาจจะแห้งและแข็ง  ทำให้การเอาออกค่อนข้างยาก และอาจทำให้คนไข้เจ็บ ยาละลายขี้หูจะทำให้ขี้หูอ่อนนุ่ม สามารถเอาออกได้โดยง่าย การหยอดยาละลายขี้หู ควรให้ผู้ป่วยหยอดบ่อยๆ หรือวันละไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง ประมาณ 1 สัปดาห์  ก่อนมาพบแพทย์เพื่อเอาขี้หูออก

น้ำกระสายยาสำหรับยาหยอดหู
            ส่วนใหญ่มักใช้ของเหลวที่มีความหนืด เพื่อทำให้ยาหยอดหูติดอยู่กับผนังช่องหูได้นาน สารที่ใช้กันมากคือ propylene glycol และ glycerine เพราะเป็นตัวทำละลายยาที่ดี ผสมเข้ากับขี้หูได้ดี และมีคุณสมบัติที่ไม่ทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโต เนื่องจากเชื้อก่อโรคในช่องหูมักจะเจริญได้ดีในภาวะแวดล้อมที่เป็นด่าง ดังนั้นยาหยอดหูมักมีส่วนประกอบเป็นกรดชนิดใดชนิดหนึ่งด้วย เช่น กรดบอริก หรือ กรดอะซีติก เพื่อทำให้ภาวะแวดล้อมเป็นกรด  เชื้อโรคต่างๆ ไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้  ยาหยอดหูชนิดที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อของหูชั้นนอกในนักว่ายน้ำ  หลังการว่ายน้ำ มักมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและแอลกอฮอล์ อยู่ด้วย

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาหยอดหู
           1.  หูชั้นนอกอักเสบแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
           2.  หูชั้นนอกอักเสบจากเชื้อรา
           3.  หูชั้นนอกอักเสบแบบเรื้อรัง
           4.  ขี้หูอุดตัน
           5. หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน ที่มีแก้วหูทะลุ ทำให้มีหนองไหลออกมา
           6. หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง แล้วมีการติดเชื้อซ้ำเติม มีหนองไหล

- มีต่อตอนที่ 2 -

 

 


เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด