เมื่อคุณต้องกินยา

ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลศิริราช 
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล
        

            เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทําไมยารับประทานแต่ละชนิดจึงมีข้อบ่งใช้แตกต่างกัน   และจําเป็นหรือไม่ที่เราต้องปฏิบัติตาม ยาแต่ละชนิดอาจถูกกําหนดให้รับประทานในเวลาที่แตกต่างกันด้วยเหตุผลที่จําเป็นต่างๆ เช่น 
            - ยาแก้ปวดแก้อักเสบ  (Non-steroidal Anti-inflammatory drugs; NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Naproxen, Diclofenac  ยากลุ่มนี้จะกําหนดให้รับประทานหลังอาหารทันทีเนื่องจากยาเหล่านี้มีผลระคายเคืองกระเพาะอาหาร  
            - ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ (Antibiotic) ควรรับประทานยาต่อเนื่องจนยาหมดหรือตามแพทย์สั่ง

ทั้งนี้มีข้อพึงสังเกตและข้อพึงระวังเนื่องจากมีการเรียก “ยาแก้อักเสบ” ในกลุ่มยาที่แตกต่างกันนั่นคือ
              - กลุ่มของยาปฏิชีวนะที่หลายคนเข้าใจผิดเรียกว่ายาแก้อักเสบ  เพราะเมื่อมีการติดเชื้อจะมีผลให้เกิดลักษณะของการอักเสบ เช่น คออักเสบ แผลอักเสบ เป็นต้น การใช้ยาฆ่าเชื้อหรือยาต้านจุลชีพเพื่อกำจัดเชื้อโรคจะทำให้อาการอักเสบทุเลาลง เพราะเชื้อโรคที่เป็นสาเหตถูกกำจัด
              - กลุ่มยาต้านการอักเสบ ซึ่งถูกต้องแล้วที่เรียกว่ายาแก้อักเสบ  ยากลุ่มนี้ช่วยแก้ปวดและลดการอักเสบโดยตรง เช่น กลุ่มแอสไพรินหรือกลุ่มที่ไม่ใช่ สเตียรอยด์ (NSAIDs) ซึ่งใช้รักษาการอักเสบที่เกิดจากการบาดเจ็บเพราะการเคลื่อนไหว  การออกกำลังกาย  การใช้เสียง  ข้ออักเสบจากโรครูมาตอยด์ เป็นต้น

ถึงตอนนี้ เราจะพาท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีรับประทานยา ที่มักจะพบเห็นบ่อยๆ ได้แก่
            - ยาก่อนอาหาร  ให้รับประทานก่อนอาหาร ประมาณ 30 นาที 
            - ยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที   มักจะเป็นยาที่ระคายเคืองกระเพาะอาหารมาก เช่น  ยาแก้ปวดต้านอาการอักเสบกลุ่มแอสไพรินหรือกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal Anti-inflammatory drugs; NSAIDs) ให้รับประทานอาหารครึ่งหนึ่งแล้วรับประทานยา  แล้วจึงรับประทานอาหารต่อจนอิ่ม  หรือรับประทานอาหารคําสุดท้ายแล้วรับประทานยาทันที พร้อมดื่มน้ำตามมากๆ
            - ยาหลังอาหาร  ควรรับประทานหลังอาหาร 15 – 30 นาที 
            - ยาระหว่างมื้ออาหาร  ให้รับประทานก่อนหรือหลังอาหาร 1 – 2 ชั่วโมง 
            - ยาก่อนนอน  รับประทานก่อนเข้านอน 15 – 30 นาที  กรณีที่เป็นยานอนหลับก่อนนอนเพื่อให้ผู้ป่วยนอนได้เต็มที่  โดยมากมักให้ผู้ป่วยรับประทานก่อนถึงเวลาที่ต้องตื่นนอนประมาณ 7-8 ชั่วโมง  ยานอนหลับควรใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น  เพราะยาบางตัวมีไว้สำหรับจัดการการนอนไม่หลับในช่วงเวลาหนึ่งๆ เท่านั้น
            - ยาที่รับประทานสัปดาห์ละครั้ง รับประทานวันใดควรรับประทานวันนั้นทุกๆสัปดาห์ เช่น  เริ่มรับประทานยาวันอาทิตย์ก็ให้รับประทานยานั้นทุกวันอาทิตย์ เป็นต้น
            - ยาที่รับประทานเมื่อมีอาการ  เช่น  ยาลดไข้แก้ปวดพาราเซตามอล(Paracetamol) เช่น รับประทาน 2  เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง  เวลาปวด หมายความว่า  รับประทานครั้งละ 2  เม็ดเมื่อมี อาการปวด ถ้าต่อมามีอาการปวดอีกแต่ยังไม่ถึง 6 ชั่วโมง ยังไม่ควรรับประทานยานั้นซ้ำอีก เพราะอาจเกิดพิษจากยาเกินขนาดได้

           กรณีลืมรับประทานยา ให้รีบรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลามื้อต่อไปแล้วให้ข้ามมื้อที่ลืมไป อย่าเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่าในมื้อต่อไปเป็นอันขาดเพราะไม่ได้ชดเชยมื้อที่ลืมไป   และอาจเกิดอันตรายหรืออาการข้างเคียงตามมาได้อีกด้วย

เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด