น่าห่วง! หูตึง (2)

น่าห่วง! หูตึง (2)

รศ.นพ.ปารยะ  อาศนเสน
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา

Faculty of Medicine Siriraj Hospital
 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ซึ่งสาเหตุของภาวะหูตึงนี้อาจจะมีได้จากหลายสาเหตุ

  1. จากการเสื่อมตามวัย ตามเงื่อนไขพันธุกรรมของแต่ละบุคคล ดังนั้นแต่ละคนอาจจะหูตึงเร็วช้าต่างกันได้

  2. หูพิการแต่กำเนิด เกิดจากพันธุกรรม  พัฒนาการผิดปกติ หรือการเป็นโรคระหว่างตั้งครรภ์ของมารดาเอง เช่น โรคหัดเยอรมัน

  3. จากโรคประจำตัวที่มีอยู่ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดการเสื่อมของหูชั้นในเร็วมากขึ้น

   4. จากการใช้ยา เนื่องจากมียาบางกลุ่มที่อาจมีผลเสียต่อหูชั้นในของผู้ป่วยบางรายได้ เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์  ยาขับปัสสาวะที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูง  ยาแอสไพริน เป็นต้น

   5. หูตึงจากภาวะเสียงดัง เกิดจากการสัมผัสเสียงที่ดังเกินไปเป็นเวลานานเกินไป ในทางปฏิบัติเราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ว่าคนรอบข้างท่านมีปัญหาการได้ยินหรือไม่  และถ้ามี   มีระดับความรุนแรงขนาดไหน 

 

       ดังตารางด้านล่าง  ซึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ  ในการตรวจสอบและประเมินภาวะหูตึง

 

จะเห็นได้ว่า เสียงสุนัขเห่า เป็นเสียงต่ำดังประมาณ 60-70 dB   เสียงพูดคุยเป็นเสียงกลาง ๆ ดังประมาณ 40 dB   เสียงนกร้องเป็นเสียงสูงดังประมาณ 10 dB เป็นต้น การสังเกตหรือระแวดระวังว่าบุคคลรอบข้างท่านมีภาวะหูตึงหรือไม่ จะเกิดประโยชน์สูงทั้งตัวผู้ป่วยและคนรอบข้างของผู้ป่วยด้วย เพื่อสามารถตรวจหาสาเหตุ รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเด็กเล็กนั้นถ้าตรวจพบได้เร็ว ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบัน เด็กคนนั้นสามารถโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่จะพูดจาสื่อสารได้โดยไม่ต้องใช้ภาษามือ  ส่วนในผู้ใหญ่ถึงแม้โอกาสที่จะได้รับการรักษาให้หายจะน้อย แต่ผู้ป่วยก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับการฟื้นฟู ใส่เครื่องช่วยฟัง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งของตัวผู้ป่วยเองและครอบครัว

 

   ขั้นตอนในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีปัญหาด้านการได้ยินนั้นไม่ยุ่งยาก เริ่มต้นแพทย์จะตรวจร่างกายดูสภาพของหูชั้นนอก ช่องหู แก้วหู หูชั้นกลางว่ามีความผิดปกติใดหรือไม่ หากตรวจพบก็จะดูแลรักษาไปตามแต่ละภาวะ จากนั้นจึงเป็นการตรวจการได้ยินและหากสงสัยว่ามีภาวะหูตึง จึงจะส่งตรวจการได้ยินเพื่อยืนยัน และดูระดับความรุนแรง จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนการรักษาซึ่งขึ้นกับว่าลักษณะของผู้ป่วยเข้ากับโรคใด หากเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในภาวะที่แก้ไขได้แล้วก็จะเป็นการฟื้นฟูด้วยการใช้เครื่องช่วยฟังต่อไป

 

   แม้ว่าหูตึงส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้สูงอายุ แต่ก็ไม่น่าเป็นห่วง ถ้ารู้สาเหตุแต่เนิ่นๆ  และรักษาได้ทันท่วงที

 

 


เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด