เยื่อแก้วหูอักเสบเฉียบพลัน

เยื่อแก้วหูอักเสบเฉียบพลัน

รศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

            การอักเสบของเยื่อแก้วหู อาจพบได้โดยเป็นการอักเสบที่เยื่อแก้วหูอย่างเดียว หรือพบร่วมกับการอักเสบติดเชื้อของหูชั้นนอก /หูชั้นกลางก็ได้ อาจเกิดภายหลังการบาดเจ็บ(เช่น การแคะหู เขี่ยหู)หรือภายหลังการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ผู้ใหญ่หรือเด็กก็เป็นได้สาเหตุอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย(เช่น Hemolytic streptococcus),pneumococci,mycoplasma pneumoniae หรือไวรัส (เช่น influenza)

อาการ
            1.ปวดหู  เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด และเป็นอาการสำคัญที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ อาการปวดอาจจะรุนแรงหรือไม่ก็ได้ ผู้ป่วยเด็กถ้าปวดมักจะร้องตลอดเวลา ไม่ยอมหลับ มักปวดตอนกลางดึก อาจมีของเหลวไหลออกมาจากช่องหู
            2.ไข้  ผู้ป่วยอาจมีไข้ หรือไม่มีไข้ร่วมด้วยก็ได้
            3.หูอื้อ ผู้ป่วยอาจรู้สึกตื้อ ๆ ในช่องหูคล้ายได้ยินไม่ค่อยชัด

อาการแสดง 
            เยื่อบุแก้วหูส่วนที่มีการอักเสบจะมีสีแดง เนื่องจากมีเลือดมาคั่งบริเวณดังกล่าวมากกว่าปกติ ในผู้ป่วยบางรายอาจพบตุ่มน้ำบนเยื่อบุแก้วหู น้ำที่ขังอยู่ในตุ่มน้ำมักมีสีเหลือง ถ้าเส้นเลือดภายในแตกอาจมีสีแดงอ่อนได้

การรักษา
            1.ยาต้านจุลชีพ:ในรายที่สงสัยว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ควรรับประทานยาต้านจุลชีพอย่างน้อย 1 สัปดาห์ แต่ถ้าสงสัยว่าเกิดจากเชื้อไวรัสไม่จำเป็นต้องรับประทานยาต้านจุลชีพ การอักเสบของเยื่อบุแก้วหูดังกล่าวมักหายได้เอง
            2.ยาหยอดหู:ถ้าสงสัยว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาจหยอดยาหยอดหูที่มีส่วนผสมของยาต้านจุลชีพ และเลือกยาหยอดหูที่มีส่วนผสมของยาชาด้วย เพื่อลดอาการปวด
            3.ยาแก้ปวด และลดไข้ หรือบรรเทาอาการ

          ถ้าผู้ป่วยมีตุ่มน้ำบนเยื่อแก้วหู ตุ่มน้ำดังกล่าว มักจะแตกออกได้เองประมาณ 2-3 วันหลังเกิดโรค ถ้าผู้ป่วยมีอาการปวดมาก อาจเจาะตุ่มน้ำให้แตกออก เพื่อลดอาการปวดได้


 

 


เอกสารประกอบ

ดาวน์โหลด